รักสุขภาพ ออกกำลังกาย ช่วยได้


          ผู้ ป่วยเบาหวานจะมีอายุสั้นกว่าคนที่ไม่เป็นเบาหวาน เฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี สาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยเบาหวานคือ หัวใจวายหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน

          ปัจจัย เสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ได้แก่ การสูบบุหรี่ ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ไม่ออกกำลังกาย ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน และเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนที่ไม่เป็นเบาหวานถึง 2-3 เท่า เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมีปัจจัยเสี่ยงมากมายในการเกิดโรคดังกล่าว

          โรค หัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานป้องกันได้ ถ้าเคร่งครัดต่อการปฏิบัติตัวต่อสุขภาพ ในอนาคตผู้ป่วยเบาหวานจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดน้อยลง

          โรค เบาหวานทำให้ไขมันในเลือดผิดปกติ คือ มีผลทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และดับเอช-ดี-แอล คอเลสเตอรอล (คอเลสเตอรอลชนิดดี) ในเลือดต่ำ โรคเบาหวานมีความสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยเบาหวานจะมีความดันโลหิตสูงมากกว่าคนที่ไม่เป็นเบาหวานถึง 2 เท่า โดยเฉพาะถ้าเป็นเบาหวานลงไตแล้ว จะพบความดันโลหิตสูงได้บ่อยมากนอกจากนี้ ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเอง ก็มีผลทำให้หลอดเลือดแดงตีบตันได้

          ผู้ ป่วยเบาหวานจะป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคหัวใจขาดเลือดได้ โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาดควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อย งดเครื่องดื่มและอาหารที่มีรสหวาน ควบคุมปริมาณอาหารประเภทแป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว และจากการสำรวจ พบว่าข้าวกล้องมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มน้อยกว่าข้าวขัดขาว

          หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ขาหมู หนังสัตว์ เครื่องใน หอยนางรม ไข่แดง เป็นต้น ควรรับประทานอาหารประเภทผักและถั่วให้มากและรับประทานผลไม้พอประมาณ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม กรณีที่มีความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ควรรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ

          ผู้ ป่วยเบาหวานควรมีระดับไขมันแอล-ดี-แอล คอเลสเตอรอล (คอเลสเตอรอลชนิดร้าย) กว่า 150 มก./ดล. ระดับความดันโลหิตควรน้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท ระดับน้ำตาลในเลือดขณะงดอาหารควรจะน้อยกว่า 120 มก./ดล. และน้ำตาลเฉลี่ยหรือน้ำตาลสะสมในเลือด (ฮีโมโกลบิน เอ-วัน-ซี) ควรน้อยกว่า 7.0%

          ผู้ป่วยบางรายที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างอาจจะต้องรับประทานแอสไพรินขนาดเล็กร่วมด้วย เพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด

 ที่มา : โรงพยาบาลราชวิถี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น